ประวัติ David Beckham
ชื่อ: เดวิด โรเบิร์ต โจเซฟ เบคแคม (อังกฤษ: David Robert Joseph Beckham)
วันเกิด: 2 พฤษภาคม ค.ศ. 1975
David Beckham เป็นนักฟุตบอลชาวอังกฤษ ปัจจุบันเล่นให้กับสโมสรรีลมาดริด ในสเปน และเป็นกัปตันของทีมชาติอังกฤษตั้งแต่ 15 พฤศจิกายน ค.ศ. 2000 ถึง 2 กรกฎาคม ค.ศ. 2006
เบ็คแฮมเป็นนักเตะ หนึ่งในสี่คนที่เล่นในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกมากกว่า 100 นัด เขายังเป็นนักเตะที่เล่นให้ทีมชาติอังกฤษ 94 ครั้ง มากที่สุดเป็นอันดับ 5 (ก.ค. 49) และเป็นคนอังกฤษเพียงคนเดียวที่ทำประตูได้ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 3 ครั้ง ใน ฟุตบอลโลก 1998 2002 และ 2006 รวมทั้งหมด 17 ประตู ชื่อเสียงของเบ็คแฮมนอกสนามแข่งนั้นโด่งดังกว่าในสนามมาก เฉพาะในสหราชอาณาจักรแล้ว ชื่อเบ็คแฮมเทียบได้กับแบรนด์อย่างโค้กหรือไอบีเอ็มเลยทีเดียว
เบ็คแฮมได้รับเครื่องราชเป็นนายทหารแห่งจักรวรรดิบริเตน (Officer of the British Empire) จากสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2
ผลงานของ David Beckham :
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด :
เบ็คแฮมเกิดในเมือง ลีย์ตันสโตน ในกรุงลอนดอน โดยพ่อของเขา เท็ด เบ็คแฮม เป็นแฟนของสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด และเดินทางไปดูการแข่งขันที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ดอยู่เสมอ เบ็คแฮมจึงได้เข้าเป็นนักเตะฝึกหัดของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
เมื่อผู้เล่นชุดใหญ่ของสโมสรออกจากทีมไปเมื่อสิ้นสุดฤดูกาล 94-95 ผู้จัดการทีมอเล็กซ์ เฟอร์กูสันจึงนำนักเตะจากทีมเยาวชนขึ้นมาเล่น เดวิด เบ็คแฮมเป็นหนึ่งในนักเตะเหล่านั้น เบ็คแฮมสามารถทำประตูได้ในนัดแรกของฤดูกาล (ชนะ เวสต์แฮม 3-1) และได้เป็นตัวจริงถาวรนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ฤดูกาลแรกของเบ็คแฮมนั้นชนะเลิศทั้งพรีเมียร์ลีกและเอฟเอคัพ
ชื่อเสียงของเบ็คแฮมเริ่มโด่งดังขึ้นในเดือนสิงหาคม 1996 เมื่อเขายิงลูกจากครึ่งสนามเข้าในนัดที่พบกับวิมเบิลดัน เขาติดทีมชาติอังกฤษนัดแรกวันที่ 1 กันยายน ค.ศ. 1996 ในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกที่อังกฤษพบกับมอลโดวา ในฤดูกาลนี้เขายังได้รับรางวัลนักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยมของพีเอฟเอซึ่งโหวตโดยผู้เล่นในพรีเมียร์ลีก
ฟุตบอลโลก 1998 :
เบ็คแฮมได้เล่นในรอบคัดเลือกของฟุตบอลโลก 1998ครบทุกนัด แต่ในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่ประเทศฝรั่งเศส ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษเกล็น ฮ็อดเดิลได้วิจารณ์ว่าเขาไม่มีสมาธิกับเกมฟุตบอล ทำให้เบ็คแฮมไม่ได้ลงเล่นใน 2 นัดแรก เขากลับมาลงสนามอีกครั้งในนัดที่อังกฤษชนะโคลัมเบีย 2-0 และทำประดูได้
เบ็คแฮมกลายเป็นตัวร้ายของทีมชาติ เมื่อได้รับใบแดงจากการทำฟาล์วนอกเกมกับดิเอโก ซิโมเน นักเตะทีมชาติอาร์เจนตินาในการแข่งขันรอบที่สอง การแข่งขันนัดนั้นเสมอกันและอังกฤษแพ้ในการยิงจุดโทษ สื่อมวลชนอังกฤษจึงกล่าวหาว่าเขาเป็นต้นเหตุของความพ่ายแพ้ในนัดนี้
ฤดูกาลทริปเปิลแชมป์ (1998-1999) :
สโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ประสบความสำเร็จสูงสุดในฤดูกาล 1998-1999 เมื่อสามารถคว้าแชมป์รายการสำคัญได้ถึง 3 รายการ คือ พรีเมียร์ลีก เอฟเอคัพ และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก โดยเบ็คแฮมมีส่วนร่วมอย่างมากในการทำประตูการแข่งขันนัดสำคัญ ผลจากการเล่นที่มีประสิทธิภาพในฤดูกาลนี้ทำให้แฟนของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดให้อภัยความผิดพลาดในฟุตบอลโลก และคอยปกป้องเบ็คแฮมจากแฟนชาวอังกฤษของสโมสรอื่นที่ยังโจมตีเบ็คแฮมอยู่
เมื่อชื่อเสียงของเบ็คแฮมนอกสนามเริ่มโด่งดัง เขาเริ่มมีปัญหากับผู้จัดการทีมอเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ซึ่งมองว่าวิคตอเรีย เบ็คแฮม ภรรยาของเขามีส่วนต่อพฤติกรรมแย่นอกสนาม ซึ่งทำให้เบ็คแฮมไม่มีสมาธิกับการแข่งขันเท่าที่ควร
เบ็คแฮมเริ่มกลับมาเอาชนะใจแฟนฟุตบอลอังกฤษได้อีกครั้ง เมื่อผู้จัดการทีมชาติอังกฤษเควิน คีแกน ลาออกจากตำแหน่งเมื่อเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2000 ปีเตอร์ เทย์เลอร์ ผู้จัดการชั่วคราวในขณะนั้นมอบตำแหน่งกัปตันทีมให้กับเบ็คแฮม และสืบต่อมาถึงช่วงของ สเวน โกรัน อีริคสัน ผู้จัดการคนถัดมา เบ็คแฮมมีบทบาทอย่างมากในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2002 โดยเฉพาะนัดที่เอาชนะทีมชาติเยอรมนี 5-1 และตีเสมอให้อังกฤษ 2-2 ในนัดที่เจอกับทีมชาติกรีซ ซึ่งทำให้อังกฤษเข้ารอบสุดท้ายในที่สุด
ฟุตบอลโลก 2002 :
เบ็คแฮมได้รับบาดเจ็บจากการแข่งขันยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกกับสโมสรฟุตบอลดีปอร์ติโว ลา คอรุญญ่า ในเดือนเมษายน 2002 จึงหมดสิทธิ์เล่นทั้งฤดูกาล แต่เขาหายทันการแข่งขันฟุตบอลโลก 2002ที่ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้เป็นเจ้าภาพร่วม เขาทำประตูชัยในนัดที่พบกับอาร์เจนตินา แต่สุดท้ายอังกฤษแพ้ให้กับบราซิลในการแข่งขันรอบถัดมา
เบ็คแฮมได้รับบาดเจ็บอีกครั้งต้นฤดูกาล 2002-03 และเริ่มเสียตำแหน่งตัวจริงในทีม ความสัมพันธ์ของเขากับเฟอร์กูสันถึงจุดแตกหัก เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2003 หลังการแข่งขันที่แพ้ให้กับสโมสรฟุตบอลอาร์เซนอล ในห้องแต่งตัว เฟอร์กูสันได้เตะรองเท้าสตั๊ดไปโดนบริเวณเหนือคิ้วของเบ็คแฮมจนได้รับบาดเจ็บ เหตุการณ์นี้เป็นจุดเริ่มต้นในการย้ายทีมของเบ็คแฮมเมื่อสิ้นสุดฤดูกาล
เบ็คแฮมลงสนามกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดทั้งหมด 394 นัด ทำได้ 85 ประตู
รีลมาดริด :
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดต้องการขายเบ็คแฮมให้กับสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนา แต่เบ็คแฮมกลับเซ็นสัญญา 4 ปีกับสโมสรฟุตบอลรีลมาดริด ด้วยค่าตัวประมาณ 35 ล้านยูโร การย้ายทีมครั้งนี้ ถูกวิจารณ์ว่ารีลมาดริด ต้องการซื้อความเป็นดาราของเบ็คแฮม เพื่อหวังรายได้จากการขายสินค้า มากกว่าต้องการตัวเบ็คแฮม จากฝีมือการเล่นฟุตบอล ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ เสื้อของเบ็คแฮมนั้นขายหมดทันที ในวันแรกที่เขาย้ายมายังมาดริด
เมื่อเล่นกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด เบ็คแฮมใส่เสื้อหมายเลข 7 แต่เมื่อย้ายมามาดริด หมายเลข 7 ถูกครอบครองโดยราอูล กอนซาเลซดาวยิงชาวสเปนอยู่แล้ว เบ็คแฮมจึงเปลี่ยนไปใส่หมายเลข 23 โดยให้เหตุผลว่าเขาเป็นแฟนของไมเคิล จอร์แดน นักบาสเก็ตบอลชื่อดัง
ฤดูกาลแรกของเบ็คแฮมที่มาดริดเริ่มต้นได้ค่อนข้างดี แต่มาดริดไม่สามารถคว้าแชมป์ใดๆ ได้เมื่อจบฤดูกาล เบ็คแฮมตกเป็นข่าวอื้อฉาวว่ามีความสัมพันธ์กับอดีตผู้ช่วย และนางแบบชาวออสเตรเลีย เบ็คแฮมได้ปฏิเสธข่าวเหล่านี้ ปีนั้นเขายังได้ลงแข่งขันยูโร 2004 และยิงลูกโทษพลาด ทำให้อังกฤษแพ้โปรตุเกสในรอบสี่ทีมสุดท้าย
ฟุตบอลโลก 2006 :
เบ็คแฮมมีส่วนในการทำประตูในรอบแรกของฟุตบอลโลก 2006 และยิงได้ในนัดที่พบกับเอกวาดอร์ในรอบที่สอง ทำให้เขาเป็นผู้เล่นอังกฤษคนแรกที่ทำประตูได้ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 3 ครั้ง อย่างไรก็ตามในการแข่งขันกับโปรตุเกสในรอบถัดมา เบ็คแฮมบาดเจ็บจนถูกเปลี่ยนตัวออกในครึ่งหลัง และอังกฤษแพ้จุดโทษให้กับโปรตุเกสอีกครั้ง
หลังจากตกรอบฟุตบอลโลก เบ็คแฮมประกาศลาออกจากตำแหน่งกัปตันทีมชาติอังกฤษ เพื่อเปิดทางให้รุ่นน้องคนอื่นเข้ามารับหน้าที่นี้แทน
ชีวิตส่วนตัวของ David Beckham :
เบ็คแฮมแต่งงานกับ วิคตอเรีย อดัมส์ นักร้องสาวของวงสไปซ์เกิลส์ ฉายา “Posh Spice” ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนเป็นที่สนใจของสื่อมวลชนอย่างมาก ทั้งคู่ถูกเรียกจากสื่อว่า “Posh and Becks” และชื่อนี้เป็นที่รู้จักกันทั่วไป ครอบครัวเบ็คแฮมมีลูกชาย 3 คน คือ บรุคลิน โจเซฟ เบ็คแฮม (เกิด 1999), โรมีโอ เจมส์ เบ็คแฮม (เกิด 2002) และครูซ เดวิด เบ็คแฮม (เกิด 2005)
ปิดตำนานฟรีคิกบันลือโลก! เบ็คแฮม ประกาศอำลาผืนหญ้าเรียบร้อยด้วยวัย 38 กะรัต หลังทิ้งทวนซีซั่นนี้ด้วยการพา เปแอสเช ผงาดซิวแชมป์ลีกเป็นครั้งแรกในรอบ 19 ปี
Post a Comment